เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 23 ธ.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) แถลงข่าวสถานการณ์ ว่า วันนี้มีcv 19 รายใหม่เพิ่ม 46 ราย เป็นการเดินทางมาจากต่างประเทศ
ติดในประเทศ 39 ราย และติดเชื้อในแรงงานต่างด้าว (คัดกรองเชิงรุก) 0 ราย หายป่วยเพิ่ม 17 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม ผู้ป่วยยืนยันสะสมรวม 5,762 ราย เป็นการติดในประเทศ 3,837 ราย มาจากต่างประเทศ 1,925 ราย เข้าสถานที่กักกัน 1,394 ราย ติดในแรงงานต่างด้าว 1,273 ราย หายกลับบ้านรวม 4,095 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 1,607 ราย เสียชีวิตรวม 60 ราย ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้ากักกัน ได้แก่ 1. สหราชอาณาจักร 2 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 43 ปี และชายอังกฤษอายุ 51 ปี 2.บาห์เรน 1 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 38 ปี 3.พม่า 1 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 29 ปี 4.รัสเซีย 1 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 50 ปี 5.สหรัฐอเมริกา 1 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 53 ปี และ 6. ปากีสถาน 1 ราย เป็นชายปากีสถานอายุ 55 ปี ทั้งหมดติดเชื้อไม่มีอาการ
ภาพดังกล่าว
ผู้ติดภายในประเทศ 39 ราย มีความเชื่อมโยงกับตลาดกุ้ง 31 ราย โดยเป็นผู้มีประวัติเชื่อมโยงกับตลาดกุ้ง จ.สมุทรสาคร 23 ราย ได้แก่ นครปฐม 3 ราย กทม. 7 ราย สุพรรณบุรี 1 ราย เพชรบูรณ์ 1 ราย นครราชสีมา 1 ราย ปราจีนบุรี 2 ราย ฉะเชิงเทรา 2 ราย พระนครศรีอยุธยา 2 ราย กำแพงเพชร 2 ราย กระบี่ 1 ราย และรอประสาน 1 ราย ไม่มีอาการ 14 ราย มีอาการ 9 ราย และมีประวัติสัมผัสยืนยันตลาดกุ้ง 8 ราย ได้แก่ สมุทรปราการ 1 ราย กทม. 1 ราย ภูเก็ต 1 ราย สระบุรี 2 ราย ฉะเชิงเทรา 2 ราย และรอประสาน 1 ราย มีอาการ 5 ราย ไม่มีอาการ 3 ราย
ส่วนที่เหลือ 8 ราย เป็นผู้มีประวัติไปสถานที่ชุมชน เช่น ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า 3 ราย คือ ปทุมธานี 1 ราย กทม. 2 ราย (คนจีน 1 ราย , พม่า 1 ราย) มีอาการทั้งหมด สัมผัสชาวพม่าที่มีอาการป่วย 1 ราย ที่ จ.นนทบุรี มีอาการ สัมผัสยืนยันก่อนหน้า 2 ราย รพ.แม่สอด จ.ตาก (คนไทย 1 ราย , พม่า 1 ราย) มีอาการ และอยู่ระหว่างการสอบสวน 2 ราย คือ นนทบุรี 1 ราย และขอนแก่น 1 ราย มีอาการ เห็นได้ว่ากระจายไปหลายที่ในแต่ละส่วนของประเทศแล้ว
ส่วนการติดในแรงงานต่างด้าวเป็น 0 ราย เนื่องจากอยู่ระหว่างการรอผลตรวจ ซึ่งขณะนี้ตรวจคัดกรองแล้วประมาณ 9,400 กว่าราย จากที่ตั้งเป้าหมาย 10,300 ราย ตรวจแล็บแล้ว 5 พันกว่าราย อัตราการติดประมาณ 22% ทั้งนี้ การติดเชื้อของ จ.สมุทรสาคร แบ่งเป็น พื้นที่สีแดง คือ ตลาดกลางกุ้ง อัตราการติดเชื้อ 44% โดยตรวจ 2,051 ราย ติดเชื้อ 914 ราย ขณะนี้ยังไม่ได้เข้าไปตรวจซ้ำ หากมีการตรวจอาจมีเปอร์เซ็นต์เพิ่มขึ้น พื้นที่สีเหลือง คือ ชุมชนซอยเศรษฐกิจ ตรวจ 2,060 ราย พบเชื้อ 134 ราย คิดเป็น 6.5% และตลาดทะเลไทย ตรวจ 653 ราย ติดเชื้อ 91 ราย คิดเป็น 14% พื้นที่สีเขียว คือ สะพานปลา ตรวจ 241 ติด 2 ราย คิดเป็น 1% รวมถึงบ้านเอื้ออาทร ตลาดโกรกกราก ชุมชนเดิมบางสาม ตลาดมหาชัย ตลาดศาลเจ้า เซ็นทรัลมหาชัย และชุมชนวัดบัณฑูรย์ นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
สำหรับจังหวัดที่มีความเชื่อมโยงตลาดกลางกุ้งและต้องเฝ้าระวัง จากลูกค้าประจำ 1,000 กว่าคน มี 23 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ นครราชสีมา สมุทรปราการ ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง สระบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี กทม. สุพรรณบุรี กาญจนบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบ ชุมพร และสงขลา ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่เคยสัมผัสตลาดกลางกุ้ง ตั้งแต่ 1 ธ.ค. ขอให้เข้ารับการตรวจโดยต้องมีอาการตามเกณฑ์ต่างๆ ถึงได้ตรวจฟรี และขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ทุกแห่ง ก่อนรายงานสถานการณ์ ต่อสื่อ ขอให้แจ้งชุดข้อมูลเข้าระบบรายงาน เพื่อให้ฐานข้อมูลน่าเชื่อถือมากที่สุดและข้อมูลเป็นชุดเดียวกัน ส่วนการตรวจหาในประเทศไทยมีศักยภาพในการตรวจทั้งประเทศประมาณ 53,106 ตัวอย่างต่อวัน ส่วนที่ยังรอผลการตรวจของสมุทรสาคร เนื่องจากเขตสุขภาพที่ 5 ที่ดูแล จ.สมุทรสาคร มีศักยภาพในการตรวจได้ประมาณ 2,900 ตัวอย่างต่อวัน จึงต้องทยอยรอผลการตรวจ แต่จะมีการปรับให้ตรวจแบบ Pool Sample 4 ตัวอย่างตรวจทีเดียว เพื่อให้รวดเร็วขึ้น
สำหรับสถานการณ์cv 19 ทั่วโลก มีผู้ติดรวม 78,360,768 ราย เป็นผู้ติดรายใหม่ 604,973 ราย อาการแย่ 106,353 ราย รักษาหายแล้ว 55,121,982 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในต่างประเทศนั้น เกาหลีใต้มีการปิดรีสอร์ททั่วประเทศเพื่อสกัดcv 19 และห้ามจับกลุ่มกันเกิน 4 คนในกรุงโซล ออสเตรเลียเตรียมตรวจประชาชนทุกคนหาcv-19 และใกล้ล็อกดาวน์ทั้งประเทศในรอบที่ 3 ซึ่งไม่ใช่แค่ประเทศไทยอย่างเดียวที่เจอสถานการณ์หนักหน่วง ที่อื่นเจอมาก่อนเราแล้ว ฮ่องกงไม่เคยมีเคอร์ฟิวก็มีประกาศเคอรืฟิวขึ้นเรื่อยๆ พม่าปิดสวนสาธารณะและทะเลสาบในย่างกุ้ง ส่วนประเทศไทยจะประกาศล็อกดาวน์เฉพาะพื้นที่ที่เราประกาศ ไม่ได้ประกาศทั้งหมด เป็นการปิดกั้นบางพื้นที่ ส่วนพื้นที่อื่นยังไปมาหาสู่กันได้ ส่วนกรณีปีใหม่นั้นจะจัดงานได้หรือไม่ และจะล็อกดาวน์อะไรหรือไม่ นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุม ศบค.ชุดใหญ่ 09.00 น.วันที่ 24 ธ.ค. โดยจะพิจารณาเกณฑ์การล็อกดาวน์ที่ให้กระทรวงสาธารณสุขไปดำเนินการมาเสนอในที่ประชุม