ควันหลงจากที่ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น”ออกมาไลฟ์สดเปิดใจถึงปมดราม่าต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องการโกงค่าตัว“เก้า เกริกพล”แต่กระแสในโลกโซเชียลยังไม่จบ เพราะชาวเน็ตยังไม่เคลียร์ในอีกหลายเรื่อง
ขณะที่เหตุการณ์ยังคุกรุ่น พักฟังข้อคิดดีๆ จากน“รุ่นพี่”ในแวดวงเพลงประจักษ์ชัย ไหทองคำ หรือนายประจักษ์ เนาวรัตน์ ผู้ก่อตั้งค่ายไหทองคำ เรคคอร์ด ที่เคยส่งให้ลำไย ไหทองคำ ทำยอดวิวจาก เพลงผู้สาวขาเลาะ ได้กว่า 400 ล้านวิว พูดถึงกรณีนี้บ้าง
“ผมมองเป็นเรื่องสามก้อนเส้านะ เจนนี่ก็มีของของเขา เป็นคนแต่งเพลงดี น้องเก้าเอง เป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ไปประกวดรายการทีวีมาทุกเวที มีคนติดตามเยอะมากๆ มีจุดขายชัดเจน เค้าถึงชวนมาร่วมงาน ส่วนตัวลิลลี่ น้องสาวยังไม่มีใครรู้จักในวงกว้าง ยังไม่มีคาแรคเตอร์ มาฟีเจอริ่งกัน มันถึงได้พากันไปได้ แต่ตอนนั้นเพลงจะดังหรือไม่ดังยังไม่มีใครรู้”
ประจักษ์ชัย บอกด้วยว่า“ความดังเป็นสวรรค์ลองใจ”ที่พิสูจน์คนมาแล้วนับไม่ถ้วน พร้อมยกตัวอย่างนักร้อง-นักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียงหลายคน ที่เกิดเป็นประเด็นแรงๆมาก่อน รวมทั้งตัวเขาเองด้วย
สำหรับกรณีของเจนนี่และน้องเก้า ที่มีเรื่องส่วนแบ่งผลประโยชน์ ที่ตกลงกันปากเปล่า ไม่ได้ลงเป็นลายลักษณ์อักษรกันไว้แต่ต้น แต่พอเพลงเกิดเปรี้ยงขึ้นมา ซึ่งถือเป็นเรื่องในอนาคต ประจักษ์ชัยมองว่า ไม่ใช่เรื่องของข้อกฎหมายแล้ว แต่จะเป็นเรื่องของน้ำใจ ที่จะมีให้แก่กันอย่างสมน้ำสมเนื้อ ซึ่งจะดีกับทุกฝ่ายมากกว่า
“ผมเห็นใจทุกฝ่าย ผมรู้จักทุกคน เคยร่วมงานกับเจนนี่ ผมเป็นคนแรกที่ชวนมาเปิดตลาดที่กรุงเทพให้ด้วย น้องเก้าก็เก่ง อนาคตไปไกลแน่นอน ผมประทับใจทั้งสองคน ผมอยากให้เยียวยาความรู้สึกกัน ต้องปรับให้ซอฟท์ลง จะแสดงความขอบคุณ หรือขอโทษ หรืออะไรที่เคยใช้คำรุนแรงไป อาจจะด้วยภาษา หรือกองเชียร์ที่สนับสนุนแต่ละฝ่าย ที่ทำให้เรื่องราวบานปลายไปมากก็ตาม”
ประจักษ์ชัย เน้นย้ำว่า วงการบันเทิง เป็นวงการมายา ที่ยังต้องเจออะไรอีกเยอะ ขอแค่อย่าทะเลาะกัน แต่ถ้าจะเดินจากกัน ก็ขอให้ไปอย่างสวยงาม จะมีผู้ใหญ่มาเป็นคนกลางก็ได้
“ผมเชื่อว่าน้องเค้ามีน้ำใจ แต่แค่น้อยใจกัน งอนกัน สองหมื่นอาจจะน้อยไป โอนให้สักแสนสองแสน ผมว่าเอาให้พอเหมาะ จะได้สบายใจกัน และเป็นการขอบคุณด้วยที่ช่วยทำให้เพลงดัง ผมเป็นห่วงน้องทั้งสองคนนะ ผมก็ขอให้เหตุการณ์มันผ่านพ้นไปด้วยดี มาร่วมงานกันได้ด้วยยิ่งดี แต่ถ้าไม่ร่วมงานกัน ก็อยู่กันห่างๆ ด้วยความรู้สึกที่ดีต่อกัน ไม่มาซ้ำเติมหรือเกลียดชังกันก็พอครับ”ประจักษ์ชัย กล่าว
นายห้างไหทองคำ ผู้รังสรรค์เพลงอินดี้ กล่าวถึงวงการเพลงจากประสบการณ์ตัวเอง ทิ้งท้ายว่าการที่จะเป็นนักร้อง นักแต่งเพลง และเป็นผู้บริหารจัดการค่ายด้วย ส่วนมากไม่ค่อยทำกันหรอก มันกดดันตัวเอง นอกจากเสียจากว่าเราหมดยุค หมดกระแส แล้วเฟดตัวเองออกมาบริหารเต็มตัว
“อย่างตัวผมเองเคยเป็นนักร้องมาก่อน รู้เลยว่า แรกๆที่อยู่ในสังกัด เค้าให้เซ็นสัญญา 8หน้ากระดาษ ให้อยู่ 8 ปี ก็ต้องเซ็นและต้องอยู่ให้ครบ 8 ปี เป็นนักร้อง ก็ไม่เคยไปด่านายคนแรก เพราะเค้าทำให้เราเกิด ตอนนี้มาบริหารค่ายก็ต้องเสี่ยงกับการตัดสินใจในหลายมิติ ผมว่าทำงานเฉพาะอย่างมันจะดีที่สุดครับ” นายประจักษ์ชัย กล่าวทิ้งท้าย