จากกรณี นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ในคดีอาญา หมายเลขดำ ที่ อ.1863/61 ข้อหายักยอกทรัพย์ รับของโจร เนื่องจากทั้งคู่ต่างอ้างว่าเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 เลข 533726 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ เป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท
ต่อมาวันที่ 4 มิ.ย.62ศาลจังหวัดกาญจนบุรี พิพากษายกฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล แต่คดีย่อยที่ฟ้องแยกออกไปยังมีอีกหลายคดี โดยเฉพาะคดีที่ครูปรีชา ฟ้องหมวดจรูญ ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ที่หมวดจรูญให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่บ้านพักส่วนตัวเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.62 ว่า “คนที่เลวโดยสันดาน การศึกษาก็ช่วยไม่ได้”จากนั้นวันที่ 1 ส.ค.62 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ
แต่ต่อมาครูปรีชา ใคร่ครวญ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้กลับคำสั่งศาลชั้นต้นว่าคดีมีมูล และรับเป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ1359/2562 และวันนี้ 2 ธ.ค.63 ศาลอุทธรณ์ได้นัดสืบพยานโจทก์นัดแรก แต่ก่อนจะมีการสืบพยานศาลได้ให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายไกล่เกลี่ยหาทางออกร่วมกัน สุดท้ายคู่กรณีระหว่างครูปรีชากับหมวดจรูญนั้นสามารถไกล่เกลี่ยกันได้
ล่าสุดวันนี้ 02 ธ.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ร้านอาหารบ้านสวนครูปรีชา เลขที่ 149/22 หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ว่า การขึ้นศาลในวันนี้คือประเด็นที่ผมยื่นฟ้องลุงจรูญในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หลังจากที่ลุงจรูญให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.62 โดยกล่าวหาผมว่า “เลวโดยสันดาน การศึกษาก็ช่วยไม่ได้
ต่อมาศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษายกฟ้องหมวดจรูญ ซึ่งผมได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้พิจารณาคำร้องและรับว่าคดีมีมูล จึงประทับรับฟ้องหมวดจรูญเป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ1359/2562 จากนั้นหมวดจรูญได้ประกันตัวออกไปด้วยการทำสัญญาต่อศาล
ซึ่งวันนี้ศาลได้นัดสืบพยานโจทก์เป็นนัดแรก แต่ก่อนที่จะมีการสืบพยาน ศาลได้ไกล่เกลี่ยคู่ความทั้งสองฝ่าย ซึ่งผมและหมวดจรูญก็สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ โดยหมวดจรูญ ยอมรับต่อศาลว่า ได้พูดถ้อยคำดังกล่าวจริง และยินดีที่จะตั้งโต๊ะแถลงข่าวที่บ้านพักของตนเองต่อสื่อมวลชนทุกสังกัด ตามเหตุการณ์เดิมที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.62 โดยหมวดจรูญจะตั้งโต๊ะแถลงข่าวเพื่อขอโทษผมภายในวันที่ 16 ธ.ค.63 ที่จะถึงนี้
ด้านนายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความส่วนของครูปรีชา เปิดเผยว่า คดีนี้เป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ1359/2562 และคดีหมายเลขแดงที่ อ1959/2562 ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ซึ่งเป็นถ้อยคำที่หมวดจรูญพูดผ่านสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 3 ม.ย.62 ซึ่งถ้อยคำดังกล่าวเมื่อทุกคนได้ยินได้ฟังก็รู้ได้อย่างชัดเจนว่าเป็นครูปรีชา เพราะเป็นการพูดฝากกันมาจากการสัมภาษณ์ของผู้สื่อข่าว ซึ่งข้อความเช่นนี้จะทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจและรู้ว่า พูดไม่ได้เพราะเป็นการหมิ่นประมาท เมื่อศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษากลับคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ยกฟ้องในครั้งแรก ประชาชนจะได้ทราบว่าข้อความดังกล่าวไม่สามารถไปกล่าวถึงบุคคลอื่นได้ เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
แต่อย่างไรก็ตามเมื่อศาลท่านได้ทำการไกล่เกลี่ยคู่ความทั้งสองฝ่ายสำเร็จ โดยตัวหมวดจรูญเองก็ได้กล่าวขออภัยต่อหน้าศาล โดยในวันที่ 16 ธ.ค.ที่จะถึงนี้หมวดจรูญ จะต้องตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชนที่บ้านพักบรรยากาศการแถลงข่าวจะต้องเสมือนจริงกับวันให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.62 ทุกอย่างเพื่อเป็นการเยียวยาให้กับคุณครู ซึ่งถ้อยคำการแถลงข่าวขอโทษ ทางศาลได้กำหนดและได้ตกลงกันแล้วว่าจะกล่าวคำขอโทษว่าอย่างไรบ้าง ซึ่งในวันนั้นสื่อมวลชนก็จะได้ทราบว่าทางหมวดจรูญ จะพูดว่าอย่างไร
สำหรับคดีหลักที่ครูปรีชาฟ้องหมวดจรูญ ในข้อหายักยอกทรัพย์ รับของโจร ที่ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษายกฟ้องหมวดจรูญ ว่าครูปรีชาไม่ใช่ผู้เสียหาย ตัวครูปรีชาจึงยังไม่เห็นพ้องด้วย จึงมีการขอยื่นฎีกาขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการที่จะยื่นฎีกา ซึ่งขณะนี้ครูปรีชาได้ยื่นขอขยายระยะเวลาในการยื่นฎีกาไปจนถึงวันที่ 18 ธ.ค.63